Grand Richmond Hotel รีโนเวทใหม่ สวย Glam สิ่งอำนวยความสะดวกครบ

ในตอนแรกโรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ (Grand Richmond Hotel) ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกเลยค่ะ เพราะบ้านของเจนนี่(เจ้าสาว)อยู่แถวเส้นแคราย รู้ว่าที่นี่มีมานานแล้ว จึงกลัวว่าโรงแรมจะดูเก่า กระทั่งแฟนมาบอกว่า ‘ที่นี่สวยนะ’ ตอนแรกเจนนี่ไม่ค่อยเชื่อค่ะ ยังคุยกับแฟนอยู่เลยว่า ‘จริงเหรอ ในความทรงจำเราไม่ใช่แบบนั้นนะ’ แต่พอเข้ามาชมสถานที่ก็รู้สึกว่าสวยจริงๆ ด้วย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่จอดรถหาง่าย รองรับได้เยอะ และที่ประทับใจคือ นอกจากเซลล์คุณนิวที่ดูแลเจนนี่จะน่ารักเป็นกันเองและมีความใส่ใจแล้ว พนักงานและเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ เองก็เป็นมิตรมากค่ะ เมื่อพิจารณากับตัวแพ็กเกจที่ดูสมเหตุสมผล เลยเลือกเป็นที่นี่ค่ะ

จัดงานหมั้นแบบตัวปลิว ชิลล์ๆ ได้เลย

ช่วงงานพิธีหมั้น เจนนี่เลือกห้อง Grand Pearl ชั้น 35 ค่ะ เจนนี่ชอบห้องนี้มาก เห็นแล้วรักเลย รู้สึกว่ายังไงก็ต้องได้ห้องนี้ เราชอบที่ห้องใช้โทนสีขาวทองดูสะอาดตา ไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติมอะไรมาก แค่ตัว Backdrop ในแพ็กเกจงานพิธีหมั้นของทางโรงแรมก็ออกมาดูดีแล้ว และทางโรงแรมก็ทำออกมาได้ดีมากๆ เรารู้สึกว่ามันเข้ากับตัวห้องทำให้ภาพบรรยากาศออกมาดูละมุนไปหมด ยิ่งเจนนี่เลือกรับตัวข้างนอกตรงระเบียงและใส่ชุดสีแดงก็ยิ่งทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมาด้วยค่ะ 

สิ่งที่เจนนี่ต้องทำในช่วงเตรียมงานสำหรับพิธีหมั้น จริงๆ มีแค่เรื่องการจัดที่นั่งให้แขกที่มาเกินกว่าที่คิดเท่านั้นเองค่ะ ซึ่งก็มีคุณนิวคอยให้ความช่วยเหลือในการช่วยวางแผนตลอด เจนนี่อยากให้มีที่นั่งพอให้แขกทุกคน แล้วด้วยห้อง Grand Pearl มีโซน Coffee Break แยกเป็นสัดส่วนอยู่ข้างๆ แต่ก็สามารถเปิดเชื่อมถึงกันได้ จึงเลือกลงโต๊ะ 4 ตัวที่โซนนี้ และจัดเก้าอี้ไว้ในห้องพิธี 70 ที่นั่ง รวมแล้วจะรองรับได้ 110 คนค่ะ ช่วงพิธีการบางคนไม่ได้นั่งข้างในห้องพิธีก็ยังสามารถนั่งดูพร้อมรับประทานอาหารจากโซน Coffee Break ไปด้วยได้ค่ะ

ในแพ็กเกจงานหมั้นพิธีจีนของทางโรงแรมนั้นเราจะได้รับชุดขันหมาก ชุดยกน้ำชาแล้วยังมีนายพิธีรวมอยู่ด้วย ซึ่งเจนนี่ได้พี่เก่งเป็นนายพิธีคอยช่วยดูแลค่ะ บ้านเจนนี่ค่อนข้างเคร่งเลยต้องคุยรายละเอียดเยอะ พอได้พูดคุยกันทำให้รู้ว่าพี่เก่งเป็นนายพิธีที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดพิธีมากเลยค่ะ

สำหรับชุดขันหมากจีนของทางโรงแรมจัดไว้เพื่อความสะดวกในการทำพิธี ถ้าบ้านใครไม่เคร่งมาก เซ็ตขันหมากตามแพ็กเกจก็สามารถจัดพิธีได้อย่างครบถ้วนแล้ว แต่บ้านเจนนี่ต้องการตามแบบดั้งเดิม เลยซื้อแพ็กเกจเพิ่มค่ะ เช่น พิธีไหว้ฟ้าดิน ชุดขันหมากเพิ่มเติม รวมแล้วราคาที่ต้องเพิ่มก็ไม่แพงด้วย เป็นราคาที่สมเหตุสมผลค่ะ

ห้องจัดเลี้ยงสวย มีดีไซน์หลากหลาย

ส่วนช่วงงานเลี้ยงฉลอง เดิมทีเจนนี่ชอบบันไดกลางโถงและฉากกั้นบันไดเลื่อนของที่นี่มากค่ะ เลยดูห้อง Richmond Ballroom 1 ที่ชั้น 6 ไว้ แต่เพราะแขกของเจนนี่เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก เราเลยต้องย้ายไปที่ชั้น 4 ห้อง Diamond Ballroom ซึ่งห้องนี้มีความไพรเวท มีพื้นที่ภายในห้องกว้างกว่า เพดานสูงดูโปร่งสบายตา และแชนเดอเลียร์ก็สวยมาก ที่สำคัญจอ LED ใหญ่กว่ามากๆ รู้สึกชอบห้องนี้มากเลยค่ะ ถึงจะแอบเสียดายเรื่องฉากกั้นตรงบันไดก็ตาม จริงๆ ถ้าทำได้ก็อยากย้ายฉากกั้นกับบันไดโถงมาไว้ที่ชั้น 4 ค่ะ(หัวเราะ)

ส่วนตัวเจนนี่รู้สึกว่าที่โรงแรมมีดีไซน์ห้องดูหลากหลายดีนะคะ ตัวโรงแรมเองก็สวยอยู่แล้ว ตอนที่ไปดูเลยรู้สึกว่าห้องนี้สวย ห้องนั้นก็สวย อย่างห้อง Richmond Ballroom ที่ชั้น 6 ก็จะเป็นดีไซส์แนว Modern ส่วนห้อง Diamond Ballroom ที่ชั้น 4 ก็จะดูมีความ Classic หน่อย มีเสน่ห์สวยกันคนละแบบเลยค่ะ 

ไอเดียการตกแต่งจากเน้นที่ชอบ ไม่เน้นคอนเซ็ปต์

ไอเดียในการตกแต่งและธีมต่างๆ เราเน้นดูจากความชอบเป็นหลักค่ะ ซึ่งก็ได้ทีมของ Fordeara เข้ามาช่วยดูแล ตัวคอนเซ็ปเราไม่มีชัดเจนอะไรค่ะ แค่ดูแบบอ้างอิงจากการตกแต่งของเจ้าอื่นๆ ว่าโครงแบบไหน อักษรแบบไหนสวยเราก็เอามารวมๆ กันตามที่เรารู้สึกชอบ ก็ได้พี่เค้กคอยช่วยดูแลดีไซน์จัดให้ทุกอย่างลงตัว เจนนี่ชอบที่เขามีการตามงาน ไม่ทิ้งงาน ตามงานง่าย งานเร็ว และดูแลดี รู้สึกโอเคมากๆ เลยค่ะ

ส่วนตรง Gallery เราพรีเซ้นต์นำพวกรูปเล็กๆ แขวนตกแต่งภายในงานตั้งแต่รูปสมัยเด็กๆ เริ่มคบกันและไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ให้เขาแขวนเป็นกิมมิกเหมือนบอกเล่าไทม์ไลน์ชีวิตของพวกเราค่ะ

เลือกสี Dress code เพื่อนๆ ให้สวยโดดเด่นไม่ซ้ำ 

พวกสีเดรสโค้ด จริงๆ เจนนี่อยากได้เป็นสีแดงค่ะ แต่ช่วงงานเช้าเจนนี่ใส่สีแดงและแฟนก็ใส่สีครีม เลยเลือกไม่ได้ทั้งสีเบธธรรมดาและสีแดง สรุปก็เลยไปลงที่เลือกเป็นผ้าพิมพ์ลายสีเบธค่ะ จะได้ดูไม่กลืนไปกับบ่าวสาวและดูสวยมีเอกลักษณ์ด้วยค่ะ

เปลี่ยนเวลา ปรับ Sequence ให้เป็นในแบบคู่เรา

คู่ของเจนนี่ลงมาค่อนข้างเลทจากกำหนดการ ดังนั้นก่อนจะเริ่มพิธีเจนนี่จึงเลือกที่จะไปเก็บภาพที่ Photo Booth ก่อนค่ะ เพราะร้านมีเวลาจำกัดอยู่ 3 - 4 ชม. เจนนี่กลัวไม่ทันก็เลยแวะเก็บภาพก่อน ซึ่งเจนนี่เลือกใช้บริการของร้าน PJ Photobooth ค่ะ ร้านนี้เขาก็จะมีที่ให้สำหรับแขวนคำอวยพรให้บ่าวสาวด้วยนะคะ พอถ่ายเสร็จก็จะได้เขียนคำอวยพรแล้วเอาไปแขวนให้อ่านกันน่ารักๆ

ส่วนพวกลำดับพิธีการในช่วงงานเย็นเราก็เหมือนทั่วไปค่ะ เปิดพรีเซ้นต์ เปิดตัว สัมภาษณ์บ่าวสาว แล้วก็ให้คำมั่นสัญญา คู่เราเลือกเล่าเรื่องผ่านวีดีโอพรีเซ้นต์เลยไม่ต้องพูดนานค่ะ ก็เหมาะสำหรับคนที่อยากจะรวบรัดในช่วงสัมภาษณ์ จากนั้นเราก็ไปตัดเค้ก มอบเค้ก เล่นเกมตอบคำถามแบบ kahoot ใครเร็ว ใครตอบได้ก็ได้รางวัลไป สุดท้ายก็ปิดด้วยการดึงริบบิ้นเสี่ยงทายช่อดอกไม้เป็นอันจบพิธีค่ะ

หลังจากเสร็จสิ้นงานทั้งหมดแล้ว สำหรับคนที่มีแฟนจากโรงเรียนสวนกุหลาบ เขาจะมีพิธีรับสะใภ้เข้าสวนกุหลาบอยู่ค่ะ พวกเพื่อนๆ ของแฟนเจนนี่จะมาบูมให้พวกเราทั้งสองคนค่ะ ถ้าไม่รู้มาก่อนคือคงตกใจ ช่างกล้องนี่วิ่งออกมาเลยค่ะ คงตกใจกันน่าดู(หัวเราะ)

ในส่วนของทีมช่างภาพเจนนี่เลือก Fotomixes ค่ะ ทีมนี้คือดีมาก เจนนี่ชอบมาก เจ้านี้ดาราเลือกใช้เยอะ รูปถ่ายสวยแล้วก็ได้เร็วมาก ไม่ถึง 1 อาทิตย์ก็ได้รูปหมดแล้ว ซึ่งเจนนี่เลือกแพ็กเกจพรีเมี่ยมก็จะได้กล้อง 3 ตัว วีดีโอ 3 ตัว ค่อนข้างมั่นใจว่าต้องได้ทุกมุม ทีมนี้ร่วมงานกับทีมเพลินจิตที่ดูแลเรื่องแสงได้ดีนะคะ ตอนแรกเจนนี่นึกว่าไฟมันสว่างไป แต่พอถ่ายออกมาแล้วโอเคเลย ซึ่งในส่วนของเอฟเฟ็กเจนนี่เลือกแบบมีไฟ Follow กับมี Dry Ice ด้วยค่ะ เวลาถ่ายออกมาจะได้ดูฟุ้งๆ

เมนูอาหารดี ตกแต่งน่ารักรสชาติอร่อย

สำหรับอาหาร เจนนี่เลือกเป็นค็อกเทล เพราะรู้สึกว่ามันดูดีและเป็นคำเล็กๆ น่าจะสะดวกเวลากิน ซึ่งในแพ็กเกจอาหารที่ได้ก็จะมีซุ้มอาหารให้ด้วยค่ะ เลือกได้ 1 อย่าง แล้วเจนนี่ก็ซื้อเพิ่มอีก 2 ซุ้ม รวมที่เป็นซุ้มอาหารก็มีเมนู ข้าวหน้าเป็ด กระเพาะปลา ผัดไทย ซึ่งผัดไทยอร่อยมาก กุ้งตัวใหญ่ สดมากค่ะ(หัวเราะ) ชอบตั้งแต่ตอนมาทดลองชิมแล้วค่ะ รู้สึกว่าอาหารดี ดีหมดเลย ตัว portion ที่ได้ก็ใหญ่ กินแล้วอิ่มด้วย ชอบมากๆ เลยค่ะ ส่วนในเรื่องการจัดโต๊ะ เราก็จัดให้มีทั้งแบบยืน และแบบนั่งสำหรับผู้ใหญ่

เลือกร้าน การ์ด & ของชำร่วย ที่มีครบจบในที่เดียว

การ์ดแต่งงาน ของรับไหว้ ของชำร่วย โฟโต้บุ๊ค เจนนี่ใช้ของ Manita Wedding ทั้งหมดเลยค่ะ เขามีของครบครันเป็นแบบ one stop service เลย และพอใช้ของเขาทั้งหมดก็ได้ลดราคาเยอะมาก ซึ่งพอบอกว่าแต่งที่โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์เขาก็มีส่วนลดให้อีกด้วยค่ะ

ที่จริงต่อให้ไม่ได้ซื้อสมุดอวยพรกับทาง Manita Wedding โรงแรมก็มีให้ในแพ็กเกจนะคะ แต่ที่เราเลือกซื้อทุกอย่างเป็นเซ็ตเดียวกันไปเลยเพราะรู้สึกอยากได้ความเป็นตัวเราค่ะ อย่างในการ์ดงานแต่งเรา เราก็จ้างวาดภาพมาจากข้างนอกแล้วก็ใส่ลงไปในการ์ด เป็นการ์ดที่บอกความเป็นตัวเอง แล้วภาพที่วาดน่ารักมากเป็นฝีมือของนักศึกษาก็เลยราคาถูกมากด้วยค่ะ 

ส่วนของชำร่วยเราเลือกเป็นตะเกียบค่ะ เจนนี่อยากได้ของที่บอกถึงความเป็นคู่ ความยืดยาว ที่ดูไว้ก็มีพวก ช้อนส้อม ตะเกียบ สายวัด สุดท้ายมาจบที่ตะเกียบเพราะได้ทั้งความหมายและใช้ได้จริง โดยเฉพาะสำหรับบ้านเจนนี่ที่เป็นเชื้อสายจีนค่ะ

พวกของรับไหว้ทางร้านก็จะมีให้เลือกเป็นผ้าห่ม ผ้าแพร ผ้าไหม ถ้วยชาม ซึ่งทางผู้ใหญ่ของเจนนี่บอกว่าให้เป็นถ้วยชามหรือของที่แตกได้ไม่ได้นะ ต้องเป็นพวกของนุ่มๆ เพราะเขาถือกัน เจนนี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเดิมความหมายคืออะไร เลยเลือกเป็นผ้าขนหนูค่ะ เพราะยังไงเป็นของที่สามารถใช้ประโยชน์ได้แน่ๆ

มีทีมงานที่ดี งานราบรื่น บ่าวสาวสบายใจ

ตลอดการจัดงาน เจนนี่ประทับใจในทีมงานมากเลยค่ะ โดยเฉพาะทีมงานของคุณตั๊กแตน Takkatan Wedding เจนนี่รู้สึกว่าเขาจัดการกระชับเวลาได้ดี และมีคนคอยตามประกบบ่าวสาวตลอด สามารถประสานงานและคอยดูแลความเรียบร้อยได้ดี ชอบที่มีคนคอยช่วยดูแลงานเบื้องหลังและงานออกมาเรียบร้อยค่ะ

นอกจากนั้นญาติๆ ก็ชมมาเยอะเลยค่ะว่าดีที่จัดที่โรงแรม ทั้งอาหารอร่อยๆ ห้องพัก ห้องส่งตัวของบ่าวสาว ทุกอย่างดูดีหมดเลย งานของเจนนี่มีผู้สูงอายุมาร่วมงานเยอะ พอเป็นโรงแรมก็มีสิ่งอำนวนความสะดวกต่างๆ มีที่จอดรถเพียงพอ ยิ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่อผู้สูงอายุหรือผู้ใช้รถเข็นอันนี้คือดีมากเลยค่ะ และที่โรงแรมก็มีการตกแต่งที่สวยมาก ให้ฟีลความความ Modern ดูทันสมัย ชอบมากๆ ค่ะ

คำแนะนำบ่าวสาว

ควรมีทีมงานช่วยดูแลความเรียบร้อย : 

ในช่วงพิธีการเช้า ถ้าเราไม่ได้จ้างทีมรันคิวอาจจะต้องให้เพื่อนบ่าวสาวช่วยดูความเรียบร้อยภายในงานนิดนึงค่ะ เพราะตัวบ่าวสาวจะไม่ค่อยมีเวลา

เลือกห้องส่งตัวใกล้ๆ กับห้องพิธี : 

ถ้าเป็นไปได้อยากให้เลือกห้องส่งตัวใกล้กับห้องจัดพิธีของเรา เลือกห้องที่ใกล้ๆ กับลิฟต์ เพราะเวลาที่ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อหรือไปส่งตัวจะได้ไม่ต้องใช้เวลานานค่ะ

คำนวณสัดส่วนและจัด Flow งานให้ดี :

เราควรจัดสรรพื้นที่เพื่อความสะดวกให้กับแขกในงานค่ะ หากห้องจัดงานที่เราเลือกมีพื้นที่ด้านหน้าน้อย ควรต้องมีการเกลี่ยแขกเพื่อไม่ให้แขกต้องยืนรอถ่ายรูปคู่กับบ่าวสาวหน้า Backdrop นานเกินไปค่ะ

งานแต่งบ่าวสาวสายชิลล์ แชร์ Detail จัดงานอบอุ่นแบบเป็นตัวเอง @ Grand Richmond Hotel

เวดดิ้งแฟร์ดี ๆ ปีละครั้ง มัดรวมกว่า 50 ร้านงานแต่ง 
ช็อปเพลินเดินสบาย มางานเดียวจบ ครบ ๆ คุ้ม ๆ 
ลงทะเบียน รับสิทธิพิเศษจากร้านค้าและโรงแรม 
ทางนี้เลยค่ะ >> https://bit.ly/4gdekPQ

WEDDING WONDERS 2025  
วันที่ 1-2 มีนาคม 2025 เวลา 9.00 น. - 19.00 น. 
Richmond Grand Ballroom ชั้น 6  
Grand Richmond Stylish Convention Hotel

WEDDING WONDERS 2025 แฟร์ดีๆ ปีละครั้ง ครบคุ้ม จบที่เดียว

เติ๊ดเลือกแต่งงานที่โรงแรม Grand Richmond Hotel เพราะว่าเป็นโรงแรมที่ สวยและใกล้บ้าน อยู่ติด MRT

Grand Richmond - One of the Largest Convention Hotels in Thailand.

เติ๊ดเลือกแต่งงานที่โรงแรม Grand Richmond Hotel เพราะว่าเป็นโรงแรมที่ สวยและใกล้บ้าน อยู่ติด MRT บางกระสอ ตรงทางออกประตู 4 ญาติและแขกจะได้ เดินทางมาร่วมงาน สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถไฟฟ้าค่ะ

Grand Richmond Hotel สถานที่แต่งงานเดินทางสะดวก ใกล้ MRT

พิธีหมั้นไทยประยุกต์กับธรรมเนียมของภาคเหนือ

งานแต่งของเราเป็นงานหมั้นเช้าเลี้ยงเย็น โดยใช้ห้อง Diamond grand ballroom ทั้งเช้าและเย็นเลยค่ะ ช่วงหมั้นเช้า เป็นพิธีไทย เริ่มจากพีธีสงฆ์ แห่ขันหมาก รับตัวเจ้าสาว สู่ขอ รับไหว้ ผู้ใหญ่ ซึ่งเราได้เปลี่ยนจากรดน้ำสังข์เป็นผูกข้อไม้ข้อมือตาม ประเพณีของทางภาคเหนือด้วย เนื่องจากเจ้าสาวเป็นคน ภาคเหนือค่ะ

สำหรับงานตอนเย็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะเปลี่ยนชุดมารับแขกในงาน ถ่ายรูปหน้าแบ็คดรอปด้วยกัน มีโฟโต้บูธให้แขกเล่นด้วย จากนั้นก็เดินเข้าพิธีเพื่อเริ่มงาน พิธีกรรัน คิวงาน สัมภาษณ์บ่าวสาว ประธานในพิธีอวยพร มีการร้องเพลง ตัดเค้ก และโยนดอกไม้ ถ่ายรูปด้วยกัน แล้วก็อาฟเตอร์ปาร์ตี้ต่อเลยค่ะ

ธีมงานแต่งสีชมพูโอลด์โรส สุดอบอุ่น

เรื่องคอนเซ็ปต์งาน เติ๊ดไม่ได้กำหนดอะไรมาก เราเพียงอยากได้งานที่ดูอบอุ่น ละมุน เรื่องธีมสี Dress Code ก็ไม่ได้จำกัด รีเควสแค่การตกแต่งต่าง ๆ ให้เป็นโทนสีชมพูโอลด์โรสเพราะว่าเป็นสีที่แม่เจ้าสาวชอบค่ะ

งานแต่งสวยตรงใจ พร้อมรูปแบบการจัดเลี้ยง ที่สะดวกสบายกับแขก

เติ๊ดใช้ทีม Decor & Organizer ของ mahassajan_wedding ที่เป็นทีมของรุ่นน้องเจ้าบ่าวเองค่ะ โดยทีมงานเขาจะส่งเรฟเฟอเรนต์ให้เลือกอยากได้ แบบไหน ก็ตกลงกัน ซึ่งงานออกมาดีมาก ดูสวยมีคุณภาพ ดีกว่าที่เติ๊ดคิดไว้อีก นอกจากนี้ยังเป็นคนแนะนำช่างภาพให้ด้วย ช่วยทำให้งานออกมางดงามน่าประทับใจ หายเหนื่อยเลยค่ะ

สำหรับรูปแบบอาหาร เติ๊ดเลือกจัดแบบโต๊ะจีน เพราะว่าแขกส่วนมากเป็นญาติผู้ใหญ่ ไม่สะดวกที่จะให้เดินไปตักเอง อยากให้ทุกคนได้นั่งทานสบายๆ ซึ่งเรื่องอาหารไม่มี ที่ติเลยค่ะ รสชาติอร่อยเลย

ส่วนของชำร่วยงานเราเป็นล็อตเตอร์รี่ค่ะ เพราะว่าเจ้าสาวเป็นคนที่ชอบเสี่ยงโชคมาก เลยอยากให้แขกที่มาร่วมงานแต่งของเราได้เอาไปลุ้นกัน โดยเรามอบล็อตเตอรรี่ให้แขกไป ทั้งหมด 500 ใบค่ะ

ของชำร่วยวัดดวง ตามสไตล์เจ้าสาวชอบเสี่ยงโชค

เทคนิคการเลือกช่างภาพให้รูปสวยตรงใจ

มาที่การเลือกช่างภาพ ทางออแกไนเซอร์แนะนำให้ค่ะ โดยใช้ช่างภาพของ Takephotography_wedding เลือกมาแล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะโดยเทคนิคในการเลือกของเราคือเข้าไป ดูโปรไฟล์ช่างภาพ แล้วเลือกสไตล์งานที่ชอบจะดีที่สุดค่ะ

งานแต่งสุดตราตรึง ประทับใจทุกช่วงเวลา

ในงานแต่งวันนั้นความจริงแล้วเติ๊ดประทับใจทุกช่วงเวลาเลยค่ะ ซึ้งจนน้ำตาไหลตั้งแต่งานหมั้นตอนเช้า ขณะที่เจ้าบ่าวกำลังทำ พิธีสู่ขอ เพียงแต่ประทับใจงานเย็นที่สุด เพราะว่า เจ้าบ่าวมีเซอร์ไพรส์ เขาร้องเพลงให้ เพื่อบอกแทนความรู้สึกที่มี เติ๊ดจึงประทับใจ โมเมนต์นี้มากเลยค่ะ

ก่อนจัดงานบอกตามตรง เติ๊ดกังวลหลายเรื่องเลยค่ะว่างาน จะออกมาดีไหม แขกจะประทับใจไหม เสื้อผ้าหน้าผมจะทำยังไง วันจริงจะออกมาสวยไหม แต่หลังงานจบลง ฟีดแบคดีมาก มีแต่คน ชมว่าทุกอย่างดีหมดเลย เพราะเรามีทีม Wedding Planner ทีม Wedding organizer ทีมรันคิว รวมถึงทางโรงแรม ช่วยดูแลงานค่ะ

เซลล์เวดดิ้งของโรงแรมก็ดีมาก ช่วยเราประสานงานหลายอย่าง และต้องการอะไรก็สามารถคุยกับเซลล์ได้ อย่างเช่นงานของเติ๊ด ขอใช้ห้องใหญ่ทั้งงานเช้าและงานเย็นเป็น ห้องเดียวกันเขาก็จัดการ ให้ตามที่เราต้องการ

งานนี้มีแค่เรื่องจำนวนแขกที่ผิดคาด เพราะเราตั้งใจจัดงาน แบบเรียบๆ แขกไม่ต้องเยอะ พอวันจริงแขกมาเยอะเกิน เราไม่สามารถคอนโทรลแขกตามที่ต้องการ แต่ทาง โรงแรมก็สามารถซัพพอร์ตได้ และทำให้งานราบรื่นค่ะ

คำแนะนำจากเจ้าบ่าวเจ้าสาว

“ เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ วันงานจะได้สดชื่น รู้สึกดีค่ะ การเตรียมงานแนะนำให้ใช้ทีม Wedding Planner ทีม Wedding organizer ทีมรันคิว เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระเราได้หลายอย่างเลย ทำให้ลดความกังวลในการเตรียมงาน ด้วยค่ะ “

งานแต่งสไตล์ภาคเหนือ สวย ละมุนด้วยโทนชมพู โอลด์โรส และจอ LED

Grand Richmond Hotel สถานที่แต่งงาน มี LED ตอบโจทย์

ตอนที่เริ่มหาสถานที่รุ้งมีเป้าหมายในใจว่าอยากได้ห้องจัดงานแบบ Ballroom ที่มีจอ LED จึงตั้งใจเลือกเป็นโรงแรมค่ะ รุ้งเริ่มหาในอินเตอร์เน็ตก่อน เห็น Ad Facebook จากเพจ Wedding at Richmond ของทางโรงแรมแกรนด์ริชมอนด์พอดี มีโอกาสเลยเข้ามาชมสถานที่ค่ะ 

สิ่งที่รุ้งชอบเมื่อมาถึงคือความสะดวกของที่จอดรถขนาดใหญ่ รองรับรถได้เป็นพันคัน และรู้สึกประทับใจกลิ่นของโรงแรมมาก รุ้งชอบมากค่ะ เรื่องของการตกแต่งรุ้งคิดว่าล็อบบี้โรงแรมมีการตกแต่งที่ทำให้รู้สึกว่าเหมือนนั่งอยู่ในล็อบบี้โซนธุรกิจกลางกรุงเทพ ดูดีมากๆ เลยค่ะ

คอนเซ็ปงานจากคอนเสิร์ต เน้นสนุกด้วยจอ LED

ช่วงงานเลี้ยงรุ้งเลือกห้อง Diamond Ballroom เพราะชอบจอ LED ที่มีขนาดใหญ่และกว้างเกือบสุดห้อง ตอนที่เปิดใช้งานรู้สึกว่าดูยิ่งใหญ่ถูกใจมากๆ ซึ่งที่รุ้งอยากได้จอ LED เพราะคอนเซ็ปงานรุ้งไม่ได้เน้นพิธีทางการ แต่เน้นความสนุกสนานแบบเป็นกันเอง โดยเราได้แรงบันดาลใจจากงานคอนเสิร์ตที่เคยไปค่ะ 

ตอนที่รุ้งเห็นจอ LED เปลี่ยนเป็นสีเฉดม่วงชมพูก็รู้สึกว่าสีสดดีจังน่าจะถ่ายรูปออกมาสวย และคิดว่าธีมสีม่วงดูไม่เหมือนใคร ผนวกกับสีม่วงชมพูก็ไปตรงกับสีของคณะและมหาวิทยาลัยที่เราเรียนพอดี เลยใช้เป็นธีมสีของงานและ เป็นสี Dress code ไปด้วยเลยค่ะ

กิมมิกจากตัวตนที่รักการท่องเที่ยว

ในการจัดงาน เราใส่กิมมิกเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวค่ะ ด้วยความที่พวกเราชอบเที่ยวเลยนำภาพจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เคยไปมาเป็นภาพแกลอรี่ โดยใช้ภาพจากภาคต่างๆ ในประเทศและต่างประเทศ เพราะอยากให้แกลอรี่แสดงถึงตัวตนที่พวกเราเป็นมากที่สุดค่ะ

การ์ดและของชำร่วยจากธีมงานท่องเที่ยว

เราออกแบบการ์ดแต่งงานและเลือกของชำร่วยให้เข้ากับธีมของการท่องเที่ยวที่เป็นคอนเซ็ปงาน โดยตัวการ์ดเราทำคล้ายกับ Boarding pass เพราะอยากให้อารมณ์เหมือนเป็นตั๋วมางานแต่ง เรื่องของชำร่วยเราก็เลือกน้ำผึ้งแทนสัญลักษณ์เดือนแต่งงานของเราและดีไซน์โลโก้ที่ติดไว้กับขวดเป็นรูปเครื่องบินแทนสัญลักษณ์ของการเดินทางเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปค่ะ

เกมตอบคำถาม เชิญชวนท่องเที่ยวเมืองรอง

ในงานมีกิจกรรมให้เล่นเป็นเกมตอบคำถามด้วยค่ะ ซึ่งเราก็เอาคลิปที่เราไปเที่ยวมา 77 จังหวัดเปิดเป็นพรีเซ้นท์ให้ดู แล้วเล่นเกมตอบคำถามเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเมืองรอง เป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว ใครชนะก็จะได้รางวัลเป็นที่พักสมุย ตรงกับคอนเซ็ปต์การท่องเที่ยวของเราค่ะ

และอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราทำร่วมกับเพื่อนๆ ก็คือการ Boom ค่ะ ด้วยเพราะแขกเป็นเพื่อสมัยมหาวิทยาลัยเยอะ ก็เลยจัดบูมโดยให้บ่าวสาวอยู่กลางวงแล้วเพื่อนๆ มาล้อมรอบร้องเพลงบูม เหมือนเป็นการอวยพรและรำลึกความหลังกันค่ะ

ทริคเลือกร้านในการเตรียมงานแต่ง

หลักในการหาร้านต่างๆ ของรุ้งคือหาจากออนไลน์ หาข้อมูล และไปร้าน ถึงค่อยตัดสินใจเลือกค่ะ อย่างพวกเสื้อผ้า รุ้งหาจากอินเตอร์เน็ตก่อน ลองดูว่าถูกใจชุดไหน จากนั้นก็ไปที่ร้านโดยตรง โดยวิธีการเลือกคือเน้นแบบที่ถูกใจค่ะ ร้านอื่นๆ ก็เช่นกัน ส่วนช่างภาพเราต้องลองดูรีวิว ผลงาน ต้องเช็คเครดิต ถึงตัดสินใจเลือกค่ะ 

เซลล์ที่ให้ความมั่นใจและรับฟังอย่างดี 

รุ้งชอบการดูแลของพี่ตุ๊ก เซลล์ทีม Wedding at Richmond มากเลยค่ะ ดูแลดีมากๆ ตั้งแต่เจอกัน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้รุ้งตัดสินใจเลือกโรงแรมแกรนด์ริชมอนด์เลยก็ว่าได้ เนื่องจากในการจัดงานครั้งนี้โจทย์คือรุ้งเป็นผู้ดูแลจัดการเองทุกอย่าง และ ‘ไม่จ้างทีมรันคิว’ ค่ะ เพราะรุ้งเตรียมทีมที่จะคอยดูแลในวันงานแล้ว

รุ้งไปมาหลายที่ ซึ่งพอรุ้งบอกว่าไม่มีทีมรันคิวกับแขกจำนวน 300-400 คน ก็รู้สึกว่าพวกเขาดูไม่เปิดใจเท่าที่ควร เหมือนมีความกังวลกับการจัดงาน ไม่เข้าใจว่างานของเราเป็นยังไง แต่พี่ตุ๊กรับฟังคอนเซ็ปต์ของรุ้ง ฟังรายละเอียดงาน จากนั้นถึงอธิบายว่าในวันงานทางโรงแรมดูแลเรื่องอะไรบ้าง ใครดูแลตรงไหน ตอบโจทย์ความสงสัยของรุ้งได้ ทำให้รุ้งรู้สึกมั่นใจว่าจะสามารถจัดงานแต่งได้อย่างราบรื่นค่ะ

คำแนะนำจากบ่าวสาว

เริ่มเตรียมงานจากการนับจำนวนแขก : ในการเตรียมงาน สิ่งแรกที่เราทำคือการนับจำนวนแขกและหาสถานที่รองรับก่อน รุ้งคิดว่าสองอย่างนี้สำคัญที่สุด เพราะถ้าหาสถานที่ก่อนงบอาจบานปลายได้จากการที่ไม่รู้จำนวนแขก อย่างน้อยที่ควรทราบคือจำนวนแขกคร่าวๆ และสำคัญคือต้องไม่ลืมนับเผื่อผู้ติดตาม เพราะการ์ด 1 ใบ ครอบครัวหนึ่งอาจมากัน 3-4 คนค่ะ

งานแต่งธีมท่องเที่ยว รวมไอเดียเก๋ พร้อมกิมมิคเพียบ @Grand Richmond Hotel

วางแผนงานแต่งเองเกือบปี แต่สบายใจ ไม่กังวล

นัทกับตั้ม(เจ้าบ่าว) ใช้เวลาเตรียมงานแต่งเกือบปีเลยค่ะ เพราะมีญาติผู้ใหญ่และผู้สูงอายุค่อนข้างเยอะ เลยตั้งใจว่าอยากให้ทุกพิธีจบภายในวันเดียว จะได้เหนื่อยทีเดียวจบ โดยเราเริ่มจากหาสถานที่และทีมตกแต่ง (Decoration) ก่อน เพราะมองว่านี่เป็นองค์ประกอบสำคัญของงานค่ะ

ระหว่างหาข้อมูลก็มีคนแนะนำว่า โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ (Grand Richmond Hotel) สวยนะ เราเลยลองเข้ามาดู ตอนแรกเห็นภายนอกก็รู้สึกเฉยๆ แต่พอเข้ามาด้านในแล้วถึงกับอุทานว่า “โอ้ สวยเลย” การตกแต่งภายในดูดีมาก สะอาดและหรูหรา ชอบมากเลยค่ะ

อีกอย่างที่ประทับใจมากคือ เซลล์ของโรงแรม ค่ะ คู่ของเราดูแลโดยคุณนิว ตั้งแต่วันแรกที่เจอก็รู้สึกว่าเขาดูแลดีมาก คอยอธิบายทุกอย่างที่เราไม่เข้าใจ ถามอะไรก็ตอบเร็ว รู้สึกว่าเขาใส่ใจจริงๆ

เมื่อเราลองพิจารณาแพ็กเกจ ภาพรวมหลายๆ อย่างแล้วรู้สึกว่าสิ่งที่ได้กับราคามันสมเหตุสมผล จึงตัดสินใจจองที่นี่ ซึ่งหลังจากจองแล้ว คุณนิวก็ยังคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เราไม่ได้จ้างแพลนเนอร์ ต้องทำเองทุกอย่าง คุณนิวก็ช่วยเตือนและดูแลว่ามีอะไรที่ขาดเหลือ ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ

Earth Tone x Colorful ความลงตัวที่แขกทั้งงานยังชม

ทีมตกแต่งเราเลือก Fordeara Wedding ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของโรงแรมค่ะ เราชอบที่ทีมงานดูแลดี และคอยให้คำปรึกษาตลอด ซึ่งสไตล์ที่นัทชอบจะเป็นแนวเอิร์ธโทน อบอุ่นๆ ไม่อยากให้สีจัดจ้านเกินไป ส่วนตั้มชอบแนวคัลเลอร์ฟูล เป็นรสนิยมที่ contrast กันสุดๆ ก็แอบลำบากใจนิดนึงว่าจะผสมออกมายังไงดี เราเลยขอว่าอยากให้แดงน้อยๆ เน้นสีน้ำตาล เหลือง เขียว จะได้ดูนุ่มๆ ไม่จัดหรือนู้ดเกินไป

ทาง Fordeara ก็ไปออกแบบและส่งดราฟต์มาให้เราดูประมาณ 2 เดือนก่อนวันงาน เราเห็นแล้วก็โอเคเลย สวย และพอถึงวันงาน ได้เห็นดอกไม้จริงที่ใช้ คือเขาใช้ดอกไม้สีสดนะคะเป็นโทนสดใสแต่ไม่แสบตา รู้สึกว่าทางร้านสามารถผสมความชอบของเราทั้งคู่ได้ลงตัวมาก ถ่ายรูปกับแบ็กดรอปออกมาก็ดูดี แขกชมกันเยอะมากค่ะ

ห้องสวยโทนละมุนกับแพ็กเกจที่แค่แต่งตัวมาก็ปัง

เราจัดพิธีหมั้นที่ห้อง Peridot เพราะชอบบรรยากาศห้องที่ดูสว่าง ไฟเพดานสวย เหมาะกับการถ่ายรูปช่วงเช้า ประกอบกับแพ็กเกจพิธีหมั้นของโรงแรมที่เราเลือกก็ค่อนข้างครบครัน มีทั้งเซ็ตขันหมาก ชุดตักบาตร นายพิธี และแบ็กดรอป เราเลยขอให้จัดดอกไม้ที่ขันหมากและฉากเป็นธีมสีขาวเพื่อให้ภาพรวมของงานดูละมุนและสว่างสดใส ซึ่งพอถึงวันจริงทุกอย่างก็ออกมาสวยมาก แล้วเพราะแพ็กเกจครอบคลุมดี เราแทบไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติมเลย แค่แต่งตัวให้พร้อม แล้วถือซองไปก็จบ สบายสุดๆ ค่ะ

จอ LED แทนฉากหลัง เปลี่ยนภาพจำงานแต่ง

ห้องจัดเลี้ยงเราใช้ห้อง Diamond Ballroom ค่ะ ซึ่งคุณนิวเป็นคนแนะนำ ห้องนี้กว้างมาก รองรับแขก 400 คนได้สบายๆ เราชอบที่มี จอ LED ขนาดใหญ่ ตรงเวที เพราะส่วนตัวเราไม่อยากใช้แบ็กดรอปแบบมีโครงเยอะๆ อยากให้เวทีดูมินิมอล พอได้จอ LED ก็ตอบโจทย์เลย คนที่บ้านตอนแรกมองไม่เห็นภาพ เพราะชินกับงานแต่งที่ต้องมีฉากหลัง แต่พอถึงวันจริง ทุกคนชมว่า “ไม่คิดว่าใช้จอแล้วจะสวยขนาดนี้” แขกก็ชมว่าจัดงานได้ดีมาก เราเองก็พลอยดีใจไปด้วยค่ะ

จัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน ถ่ายรูปออกมาสวย แขกไม่ต้องเดินให้เหนื่อย

เรื่องอาหารเราคำนึงถึงแขกก่อนค่ะ เพราะมีผู้ใหญ่เยอะ จึงเลือกเป็นโต๊ะจีน ซึ่งสะดวกตรงที่ไม่ต้องเดินไปตักเอง แขกนั่งรออาหารเสิร์ฟได้เลย ภาพรวมของงานก็ดูเรียบร้อย แอบเสียดายนิดนึงเรื่องลำดับอาหารที่ไม่ได้ให้เปลี่ยนเมนูข้าวมาเสิร์ฟก่อน ถ้าอาหารประเภทข้าวมาเร็วจะได้กินกับอย่างอื่นได้ด้วย แต่เรื่องรสชาติแขกชมกันเยอะเลยค่ะว่าอร่อย ถือว่าโอเคมากค่ะ

โมเม้นท์ชวนอมยิ้ม กีตาร์ที่ดูไม่มีอะไร กลายเป็นตัวหลอกที่อบอุ่นที่สุดในงาน

สิ่งที่ทำให้เราประทับใจในงานที่สุดคือ เจ้าบ่าวเซอร์ไพรส์ร้องเพลงให้ค่ะ ปกติเขาเป็นคนชอบร้องเพลงอยู่แล้ว ถึงขนาดมีกีตาร์ส่วนตัว เราคิดว่าถ้าเขาวางแพลนร้องเพลงในงานก็น่าจะเอากีตาร์ไป แต่มันไม่ได้อยู่ในซีเคว้นที่คุยกันเลย แล้วก็ไม่มีฮืมฮัมหรือหลุดร้องเพลงเลยด้วย เราเห็นกีตาร์ยังวางอยู่ที่เดิมเลยคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรนอกจากซีเคว้นปกติแล้วล่ะ 

ทว่าพอถึงเวลาจริงที่พิธีกรประกาศคิวขึ้นมา ความรู้สึกเราตอนนั้นคือบอกไม่ถูก งงๆ นิดนึง แต่ก็ปลื้มๆ ปริ่มๆ ส่วนเจ้าบ่าวเองน่าจะประหม่าตื่นเต้นพอดู เพราะเขาถามขึ้นมาว่า “ท่อนแรกคืออะไรนะ” ตอนที่ทำนองขึ้นเราจึงพอรู้แล้วว่าจะร้องเพลงอะไรเลยช่วยขึ้นเนื้อให้(หัวเราะ) แขกในงานก็มีการเปิดแฟรชโทรศัพท์โบกคลอไปกับเพลงเหมือนคอนเสิร์ต เป็นภาพที่ทำให้รู้สึกประทับใจมากเลยค่ะ

หลังจบงานคุณนิวแอบมากระซิบเรื่องน่ารักว่าเจ้าบ่าวเผลอเอาไฟล์ที่จะร้องเพลงเซอร์ไพรส์ใส่เข้าไปในกลุ่มที่มีนัทอยู่ด้วย โชคดีที่รอบนั้นนัทไม่ได้เปิดดูเลยรอดไป พอมานึกย้อนแล้วรู้สึกเหมือนโดนใช้กีตาร์เป็นตัวหลอกเลยค่ะ(หัวเราะ)  ยังไงก็ตาม เรารู้สึกว่าคุณนิวคอยดูแลพวกเราดีมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณคุณนิวมากๆ เลย

เทคนิคการเลือก Costume สำหรับเจ้าสาวจากประสบการณ์จริง

ในการเลือกชุด เราจะเลือกจากความชอบและความมั่นใจก็จริง แต่ก็ยังมีจุดที่ต่างกันนิดๆ หน่อยๆ สำหรับพิธีหมั้นและฉลองค่ะ พิธีหมั้นเราไม่ได้เลือกชุดไทยเพราะไม่ใช่สไตล์เท่าไหร่ เลยเลือกชุดที่มีลูกไม้สวยๆ ดูมินิมอล นั่งแล้วไม่ปลิ้น เป็นช่วงพิธีที่ต้องเลือกชุดนั่งแล้วสวยที่สุดค่ะ ซึ่งร้านก็ช่วยแนะนำดูแลให้ ส่วนพิธีฉลอง ก่อนไปที่ร้านเราดูแบบไว้ล่วงหน้าแล้วค่อยไปลองจริง แต่ก็ยังได้ลองเกือบสิบชุดอยู่ดีกว่าจะได้แบบที่ชอบและมั่นใจจริงๆ ซึ่งตอนที่ลองเราก็ต้องฟังคอมเม้นท์ของเซลล์และทางเจ้าบ่าวที่ช่วยดูให้ประกอบการตัดสินใจไปด้วยค่ะ

สำหรับเจ้าสาวที่เลือกใส่ชุดกระโปรงพองๆ อันนี้เล่าไว้เป็นเคสนะคะ บังเอิญว่าวันนั้นสุ่มที่นัทใส่มันเคลื่อนบนเวทีนิดหน่อย ตอนแรกนึกว่าสุ่มหลุดเลยกระซิบกับ MC ขอลงไปจัดการหลังเวที ใช้เวลาสักพักเหมือนกัน ดีที่ห้อง Diamond Ballroom มีห้อง VIP ใกล้เวทีทำให้ไม่เสียเวลาในการแก้ไขชุดมากและมีความเป็นส่วนตัว โดยระหว่างที่นัทไปแต่งตัว พิธีกรกับเจ้าบ่าวก็พูดคุยกันไป ทำให้งานยังไหลราบรื่นไม่มีปัญหาค่ะ อันนี้เป็นการร่วมมือกันแก้ไขสถานการณ์ของทีมงานหน้างานที่ดีมากๆ เลยค่ะ

ส่วนรองเท้า สำหรับช่วงพิธีเช้านัทแนะนำให้เลือกรองเท้าสวยๆ ที่เข้ากับชุดได้ตามใจเลยค่ะ เพราะเดินน้อย อยู่แล้ว อย่างนัทเองก็เลือกใช้รองเท้าของ Ceremony.shoes นัทชอบที่เขาเป็นร้องเท้าตัดใหม่และดีไซน์สวยโดดเด่นค่ะ แต่ช่วงงานเลี้ยงจะแนะนำเป็นรองเท้าส้นตึกที่ใส่สบายๆ นะคะ เพราะต้องยืนเยอะ ขนาดนัทใส่รองเท้าที่คิดว่าสบายแล้วนะแต่ก็ยังปวดเลยค่ะ (หัวเราะ)

ไอเดียของชำร่วยที่ดูหลากหลายไม่จำเจ

สำหรับของชำร่วย ปกติไปงานแต่งแล้วจะได้พวกเทียนหอม ตะเกียบ ไปหลายๆ ที่ ได้มาเยอะ รู้สึกมันคล้ายๆ กันไปหมด เราเลยเลือกเป็นการ์ดโฮลเดอร์ (Card Holder) เพราะเป็นของที่ได้ใช้จริง โดยจะทำหลายๆ สีให้แขกได้เลือกกันได้ด้วย จะได้ดูไม่ซ้ำค่ะ

เก็บโมเมนต์แบบมุม Candid ให้ฟีลภาพถ่ายที่เป็นตัวเรา

เราเลือกช่างภาพจากสไตล์ที่ชอบ โดยดูจากโทนภาพ, mood, และงบ สุดท้ายจบที่ Nas Images เพราะเขาถ่ายแนว Candid ดี โทนออกธรรมชาติ มีความเข้มหน่อย วันจริงเขาช่วยบิวต์อารมณ์ได้ดีมาก เวลาคนเราตั้งใจถ่ายรูปภาพที่ได้มักจะมีความเกร็งอยู่ข้างใน แต่เขาช่วยให้เราผ่อนคลาย ทำให้ได้ภาพเผลอๆ ที่เป็นธรรมชาติ มาย้อนดูรูปก็ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งจัดงานผ่านไปจริงๆ ค่ะ

ขยันหาข้อมูลและรับฟังกันให้เยอะ :

ถ้าไม่มีแพลนเนอร์ เราต้องขยันหาข้อมูล เพราะเราต้องคำนวณหลายๆ อย่างด้วยตนเอง ถ้าเป็นเรื่อง Personal ก็ตัดสินใจกันได้เลย เช่น ชุด การ์ด ฯลฯ แต่ถ้ามีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างลำดับพิธีการต่างๆ ต้องดูว่าทำอะไรได้บ้าง รับฟังความเห็นกันและค่อยๆ ปรับค่ะ

อย่าลืมตรวจเช็คความเรียบร้อยของงาน :

หลังจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จ อย่าลืมตรวจเช็คอีกครั้งว่ายังขาดเหลืออะไรไหม เพื่อให้ในวันงานเราไม่กังวลค่ะ เพราะหน้างานเราจะไม่ค่อยมีเวลาดูด้วยตัวเองแน่นอนค่ะ

ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดในช่วง 2 อาทิตย์ก่อนงานแต่ง :

เรื่องผิวพรรณเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเจ้าสาว ถ้าเกิดมีแผลหรืออะไรขึ้นมาเราต้องรีบติดต่อช่างแต่งหน้าให้เร็วที่สุดเพื่อที่เขาจะได้เตรียมตัวถูกว่าต้องปรับแต่งวิธีแต่งหน้าเราแบบไหน ถ้าเราไม่แน่ใจว่าควรดูแลผิวเรายังไงลองถามช่างดูได้ค่ะ

ห้ามใช้ยาแต้มสิว :

อันนี้เป็นความรู้จากช่างแต่งหน้า ถ้าเป็นสิวห้ามใช้ยาแต้ม เพราะจะทำให้หน้าแห้งค่ะ แนะนำให้ใช้แผ่นดูดสิวแทน หากหน้าแห้งเวลาที่แต่งหน้าออกมาจะเป็นขุยๆ แล้วแต่งออกมาได้ไม่ดีค่ะ

งานแต่งสุดคอนทราสต์ Earth Tone x Colorful ความสวยที่ลงตัว @ Grand Richmond Hotel

Grand Richmond Hotel ห้องสวยจนต้องรีบจอง 

จินกับพี่ชัชรู้จักคุณปุ้ย ชุณหวรรณ วงศ์วรการ ผู้บริหารของโรงแรมแกรนด์ริชมอนด์(Grand Richmond Hotel) ค่ะ ตอนที่วางแผนจะแต่งงาน พอคุณปุ้ยทราบข่าวจึงชวนให้ไปดูห้องของโรงแรม ซึ่งจินก็ได้ลองหาข้อมูล ดูรูป วีดีโอห้องและบรรยากาศการจัดงานจากใน IG และเพจ Facebook : Wedding at Richmond ทำให้จินสามารถเลือกได้ว่าจะมาดูห้องไหนล่วงหน้า ซึ่งพอได้เห็นของจริงก็คือสวยมาก! จินบอกพี่ชัชว่าเอาที่นี่แหละ ตัดสินใจเลือกในวันนั้นเลยค่ะ(หัวเราะ)

แพ็กเกจงานแต่งที่เลือกได้ตรงสไตล์ของเรา

ตอนแรกจินวางแพลนไว้ว่าจะจัดงานแต่งแยก 2 วัน แต่พอคิดว่าเหนื่อยทีเดียว จัด 1 วันไปเลยดีกว่า จึงตัดสินใจจัดเป็นงานหมั้นช่วงเช้าและงานฉลองช่วงเย็นค่ะ โดยตัวแพ็กเกจที่เราเลือกใช้เป็นแบบ Custom ตามความต้องการของเราเป็นหลักค่ะ ดูว่าต้องการอะไรแล้วให้พี่ทีมเซลล์ที่ดูแลงานของเราช่วยแนะนำให้ ซึ่งพี่ทีมก็แนะนำได้ดีมากๆ สงสัยอะไร ลำดับขั้นตอนต้องเป็นยังไง อธิบายได้เคลียร์สุดๆ อยากได้อะไร อยากให้เป็นแบบไหน พี่ทีมใจเย็นและใจดี ช่วยคุย ช่วยประสานให้ จนทุกอย่างออกมาราบรื่น ดีใจมากๆ ที่ได้พี่ทีมเป็นคนดูแลค่ะ

พิธีหมั้นสวยหวาน โทนพาสเทล 

สำหรับพิธีหมั้น จินเลือกห้อง Grand Pearl ที่มีสีขาวๆ สว่างๆ เพราะรู้สึกว่ามีความเป็นไทยโมเดิร์นตอบโจทย์กับงานพิธีของเราที่ไม่ได้ไทยจ๋า นอกจากนี้โทนสีของห้องก็เป็นโทนที่จินชอบ ตรงกับความต้องการที่อยากให้งานได้ฟีลสบายๆ ซอร์ฟๆ มีความคอนทราสกับงานเย็นที่เป็นธีม Colorful แบบจัดเต็มค่ะ

และด้วยเราชอบสีสันทั้งคู่ เลยให้โจทย์กับทีมตกแต่ง Fordeara Wedding ว่าขอเป็นสีโทนพาสเทล โดย Reference ต่างๆ ก็หาจาก Pinterest ค่ะ นอกจากดอกไม้เราก็มีดอกหญ้าสีน้ำตาลมาผสมนิดหน่อยให้ดูฟูๆ ซึ่งทีมตกแต่งทำออกมาได้ตรงปกตามที่ออกแบบไว้เลยค่ะ แล้วจินก็ยังตกแต่งห้องด้วยการผูกริบบิ้นที่เก้าอี้ให้ออกมาดูน่ารักๆ โดยไอเดียนี้ก็ได้น้องสาวของพี่ชัชเป็นคนช่วยแนะนำค่ะ

ส่วนของพิธีการช่วงงานหมั้น จินกับพี่ชัชไม่อยากให้ยืดเยื้อมาก แล้วในงานก็มีแต่ญาติผู้ใหญ่ที่ก็เป็นสายชิลล์และเพื่อนๆ ที่สนิทกัน เราจึงตัดช่วงแห่ขันหมากออก เหลือแค่พิธีสวมแหวน รับไหว้ รดน้ำสังข์ และถ่ายรูปเก็บภาพ ก็จบแล้วค่ะ  

ห้องสวยอลังการ สาดสีสันให้สุดแล้วหยุดที่จิน&ชัช 

ช่วงงานเลี้ยงฉลองตอนเย็นจัดที่ห้อง Richmond Grand Ballroom เพราะเดิมเราวางสเกลงานไว้ใหญ่มาก ขนาดของห้องจึงสำคัญ ต้องเลือกห้องที่รองรับได้มากกว่า 1,000 คนอย่างห้องนี้ค่ะ ประกอบกับเราชอบดีไซน์ภายในห้องมาก มีพรมที่ทั้งนุ่มและสวย นอกจากนั้นยังมีจอ LED ขนาดใหญ่ถึง 4 จอ ซึ่งพี่ชัชชอบมาก เราคิดว่าน่าจะเล่นอะไรกับจอได้เยอะ ส่วนตัวจินเองโดนบันไดตรงโถงกลางตกตั้งแต่เดินขึ้นมาเลยค่ะ รู้สึกว่าตัวบันไดดูสวย อลังการ เหมือนเราเห็นภาพงานแต่งในหัวมากขึ้น จึงตัดสินใจเลือกห้องนี้ค่ะ

เลี้ยงฉลองเน้นปาร์ตี้ จัดทีเหมือนอยู่คอนเสิร์ต

สำหรับงานเลี้ยง เราเน้นปาร์ตี้เลยค่ะ ได้ฟีลแบบคอนเสิร์ตสนุกๆ การเซ็ตอัพ ตกแต่ง เราขึ้นโครงสร้างไฟกับเวทีจัดเต็มมาก จินยังตกใจเลยว่านี่งานแต่งจินใช่ไหม เพราะเหมือนงานคอนเสิร์ตเลย มีต้องมาเช็ค Blocking แสง ตำแหน่ง เทสเสียง เหมือนจัดคอนเสิร์ตจริงๆ รู้สึกขอบคุณทางโรงแรมมากๆ ค่ะที่ให้ขึ้นโครงเสาล่วงหน้า เพราะการขึ้นโครงเสาขนาดใหญ่ช่วงโหลดของค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร ซึ่งการขนย้ายก็สามารถจัดการกันได้ดีมากๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ

ตกแต่งงานจากความทรงจำที่มีร่วมกัน

เราตั้งใจว่าอยากให้ภาพงานแต่งงานสะท้อนความทรงจำของเราทั้งสองคนด้วย จึงให้โจทย์ทางทีมตกแต่ง Fordeara ว่าอยากได้สี Colorful โดยมี Concept เป็น California เพราะจินกับพี่ชัชเจอกันที่ LA คือจินอยู่ที่ LA แล้ววง Bodyslam ไปเล่นที่นั่นพอดี เราเลยได้เจอกันค่ะ

ประกอบกับเจ้าบ่าวไม่อยากได้สไตล์การตกแต่งด้วยดอกไม้ “ไม่ชอบเห็นดอกไม้ในงานเยอะๆ ชอบเห็นคนในงานเยอะๆ ครับ” เจ้าบ่าวบอกมาแบบนั้น ทีม Fordeara เลยใช้ใบไม้จำพวกปาล์มทาสีจัดๆ เหมือนสาดสีใส่ จากนั้นก็ใช้พวก Lighting มาช่วยเสริมตรงบันไดโถง ไล่สีให้สวยงงามตามธีม Colorful ค่ะ

ฟังก์ชั่นไฟหลากหลาย ควบคุมได้หลายระดับ

ในเรื่องของการจัดแสง ตอนแรกทางทีม Lighting ว่าจะไม่เปิดไฟของโรงแรมเพื่อโชว์ Effect แสงที่จัดมา แต่เมื่อปิดไฟทั้งหมดพื้นที่จัดงานดูค่อนข้างมืดเกินไปเลยคิดว่าหรือจะเปิดทั้งหมดดีกว่า ซึ่งพี่ชัชก็บอกไว้ว่า “จริงๆ ถ้าเปิดไฟทั้งหมดก็คิดว่าสวยเหมือนกัน เพราะเวลาที่เปิด Lighting แสงมันสะท้อนกันออกมาดูวิบวับดี” โชคดีที่พอได้ปรึกษากับทางโรงแรม ถึงได้ทราบว่าตัวฟังก์ชั่นไฟห้องของโรงแรมสามารถควบคุมได้หลายโซน ทำให้เราเลือกได้ว่าจะปิดหรือเปิดตรงส่วนไหนบ้าง สะดวกต่อการใช้งานดีค่ะ

เซอร์ไพร์เล็กๆ ที่ทำให้งานออกมาดั่งภาพฝัน

นอกจากตรงบันไดที่จัดแสงให้อย่างดีแล้ว จินกับพี่ชัชยังโดนน้องๆ ทีม  Lighting เซอร์ไพร์อีกอย่างด้วยค่ะ ในช่วงก่อนถ่ายรูปหน้า Backdrop จะมีการยิงแสงที่เป็นลายคลื่นน้ำเข้าไปที่ Backdrop และรอบๆ บริเวณ ซึ่งถ้ามองไกลๆ จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในทะเล ทำให้ใบไม้ที่เป็นสี Colorful ดูคล้ายปะการังไปเลย สวยมากๆ ค่ะ ตอนที่เราเห็นก็รู้สึกว่า ‘โอ้ เขามีแบบนี้ด้วยหรอ’ ทำออกมาได้เกินที่คิดไว้มากๆ จนพึ่งมารู้ที่หลังว่าเขาแอบเตรียมมาให้เป็นเซอร์ไพร์ ประทับใจจริงๆ ค่ะ 

เน้นความมันส์ ใช้จอ LED สร้างบรรยากาศ

การตกแต่งภายในห้องจัดงาน บนเวทีเราไม่ตกแต่งเยอะค่ะ เวลาถ่ายรูปออกมาจะได้ดูไม่รกไม่แน่น เราเน้น Visual เล่นกับจอกับแสงไฟมากกว่า เพราะคิดไว้แล้วว่าบนเวทีน่าจะมีคนเวียนขึ้นไปกันเยอะ ซึ่งสุดท้ายคนก็วนกันขึ้นไปจริงๆ เจ้าบ่าวถึงกับบอกว่า “ดีแล้วที่ดอกไม้บนเวทีไม่เยอะ ไม่อย่างนั้น เละแน่นอน” (หัวเราะ)

พิธีในแบบที่ใช่ พร้อม Moment พิเศษที่แฟนคลับคนหนึ่งใฝ่ฝัน

เนื่องจากแขกในงานเป็นเพื่อนที่รู้จักกันทั้งนั้น เราจึงไม่ต้องการเน้นพิธีการ ก็เลยคุยกันว่าจะมีพิธีน้อยมากๆ ให้อารมณ์เหมือนงานเลี้ยงรุ่นที่เพื่อนๆ มาสังสรรค์กันมากกว่าค่ะ และด้วยแขกของเราเยอะมาก จินกับพี่ชัชจึงลงมาถ่ายรูปหน้า Backdrop ตั้งแต่ 18.00 น. แล้วยืนยาวไปถึง 21.00 น.เลยค่ะ

ตอนเปิดตัวบ่าวสาวเป็นช่วงที่จินใส่ใจมากเป็นพิเศษ จินรีเควสเลยค่ะว่าอยากให้พี่ตูนเป็นคนร้องเพลงที่จินเลือกตอนเปิดตัว พร้อมกับเล่นดนตรีสดจากวง Bodyslam ตัวจินเป็นแฟนคลับวง Bodyslam มานานจึงเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากเลยค่ะ 

ช่วงเวลานี้เราได้ใช้ภาพ Motion และแสง ทำให้แขกโฟกัสไปที่บ่าวสาว โดย Motion ที่เลือกจะเป็นภาพดำทั้งจอและมีหยดน้ำหลากสีที่ขยับไหวไปมาคล้ายเปลวไฟตรงข้างหลังพี่ชัชที่ทำหน้าที่ตีกลองเพื่อให้เด่นขึ้นมา ซึ่งพอจบการแสดงตรงนั้น พี่ชัชก็จะมารับจินแล้วพาขึ้นเวทีไปพร้อมกันค่ะ 

เมื่อเปิดตัวแล้วจะมีสัมภาษณ์บ่าวสาวนิดหน่อย ต่อด้วยการพูดคุย อวยพร ช่วงนี้จะเป็นฟีลสบายๆ สนุกเฮฮากันมากเลยค่ะ สุดท้ายก็เป็นโยนดอกไม้ ตรงนี้พี่ชัชโยนกล่องเหล้าด้วยนะคะ พิธีการของเรามีเท่านี้เลย หลังจากนั้นก็เป็นปาร์ตี้ค่ะ

อาหารอร่อยจนต้องบอกต่อ

ส่วนของอาหารในงาน จินเลือกเป็นค็อกเทลที่สามารถหยิบทานได้สะดวกและมีการตกแต่งที่น่ารักค่ะ จินชอบอาหารของโรงแรมแกรนด์ริชมอนด์มาก ก่อนวันจัดงานจะมีให้ลองชิมอาหาร พอได้ชิมแล้ว จินโฆษณากับเพื่อนทุกคนเลยว่าอร่อยจริงๆ ซึ่งแขกที่มาร่วมงานก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารในไลน์คืออร่อยทุกอย่าง ขนมก็อร่อย แอบเสียดายที่วันงานบ่าวสาวมีเวลาน้อยก็เลยไม่ค่อยได้ทานค่ะ(หัวเราะ) 

นอกจากนี้เราต้องขอขอบคุณคุณปุ้ย ชุณหวรรณ วงศ์วรการ ผู้บริหารของโรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ที่ช่วยดูแล นำเข้าอาหารอร่อยๆ มาให้แขกของพวกเราทานรองท้องช่วงปาร์ตี้หลังเที่ยงคืนด้วยค่ะ 

ไอเดียเปิดตัวสายดื่ม กิมมิกเล็กๆ ที่เรียกเสียงว้าว

สำหรับ After Party หลังเราไปเปลี่ยนชุดแล้วก็จะมีเปิดตัวอีกครั้ง ซึ่งมีคนเคยแนะนำว่าถ้าอยากดูพิเศษ มีสีสันมากขึ้น ให้ใส่กิมมิกนิดนึงตอนเปิดตัว เราเลยเดินเข้างานพร้อมแก้วเบียร์ขนาดใหญ่พิเศษที่ทำเป็นทรงแก้วแชมเปญ หลายคนสนใจอยู่นะคะ เพราะแก้วใหญ่มากจริงๆ ก็ขำๆ กันไป(หัวเราะ) แล้วด้วยในแพ็กเกจเราได้รับแชมเปญ 1 ขวดเป็น Complimentary เราจึงให้ทางโรงแรมทำ Champagne Tower ไว้ด้วย และตอนที่เริ่มรินแชมเปญมีการยิง Paper Shoot เป็นซีนที่ออกมาดูดีเลยค่ะ

ดื่มให้สุดแล้วหยุดที่จ้างคนขับรถ

เพื่อนของจินและพี่ชัชเป็นสายดื่มจัดๆ พวกเราเลยนำเข้าแอลกอฮอล์มาหลายชนิดและหลายยี่ห้อมากๆ ค่ะ บางส่วนก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ที่ได้รู้จักกันผ่านการทำงาน ไปๆ มาๆ ก็มีทั้งเบียร์ เหล้า โซจู รวมกับของโรงแรมที่มีบริการ Softdrink ทำให้เป็นอะไรที่ว้าวสำหรับแขกมากๆ งานนี้จินจึงได้เตรียมแผ่นป้ายโบรชัวร์ U Drink I Drive ที่เป็นบริการขับรถรับส่งไว้ให้ด้วย เผื่อแขกที่ขับรถกลับไม่ไหวค่ะ

งานแต่งคุณจิน & คุณชัช Bodyslam สวย Glam ดีเทลสุดชิค มีกิมมิคได้ฟีลคอนเสิร์ต

จัดงานแต่งแบบไม่มีแพลนเนอร์ ไม่ยากอย่างที่คิด

‘จัดงานแต่งทั้งที เราก็ต้องทุ่มหน่อย’ เพราะประโยคนี้แหละครับ เราก็เลยไม่คุยเรื่องงบกันมาก แต่ใช้วิธีวางแผนทางการเงินเอาครับ ด้วยความที่เราเตรียมงานล่วงหน้ากันเป็นปี ทำให้มีระยะเวลาพอที่จะเตรียมตัวและเฉลี่ยงบได้สบายๆ ครับ

ในขั้นแรกของการเตรียมงานแต่ง เราหาฤกษ์จัดงานกันก่อนเพื่อให้บางร้านที่จำเป็นต้องใช้วันที่จัดงานตรวจสอบคิวสามารถเช็คได้ เช่น สถานที่ หรืองานตกแต่ง ซึ่งพอได้ฤกษ์มาก็ตัดสินใจหาสถานที่จัดงานแต่งเป็นลำดับถัดไปโดยเน้นเป็นแถวใกล้บ้าน และเลือกจากการลองคำนวณจำนวนแขก ดูว่าที่ไหนสามารถรองรับได้พอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป ตอนนั้นเราได้ยินมาว่าที่โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ (Grand Richmond Hotel) มีการรีโนเวทใหม่เลยเข้ามาดูเป็นที่แรกเพราะใกล้บ้านที่สุด พอเข้าไปข้างในก็ประทับใจในความสวยและความหรูหรามากครับ ที่จอดรถเยอะแถมเป็นแบบในร่มด้วย รู้สึกชอบมาก จึงตัดสินใจจองสถานที่จัดงานแต่งที่นี่เลยไม่ดูที่อื่นต่อแล้ว หลังจากนั้นเราก็ได้รับการแนะนำร้านที่เราต้องหาต่อไปเป็นทอดๆ ครับ 

เราได้เซลล์คุณนิวเป็นคนที่คอยดูแลงานของพวกเรา ซึ่งคุณนิวน่ารักมาก เป็นเซลล์ที่ทำให้เรารู้สึกว่า เขาไม่รำคาญที่จะตอบเราไม่ว่าจะถามอะไร จะคอยอธิบายเป็นข้อๆ แบบละเอียดให้จนกว่าจะเข้าใจ คอยถาม คอยตามงานว่ามีอะไรที่เรายังไม่ได้เตรียมบ้าง พวกเราไม่ได้จ้างแพลนเนอร์ แต่รู้สึกเหมือนมีคุณนิวเป็นแพลนเนอร์ท่านหนึ่งเลยครับ เลยต้องรีบดักไว้ก่อนว่าตอนงานแต่งผมคุณนิวยังอยู่ใช่ไหมครับ เพราะจองไว้นานมาก กลัวถึงวันงานเซลล์ที่ดูแลจะไม่อยู่แล้ว (หัวเราะ) การดูแลของคุณนิวเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราประทับใจมากครับ

แพ็กเกจที่มาแต่ตัวก็จัดงานได้มีอยู่จริง

สำหรับงานหมั้นผมใช้แพ็กเกจ All Inclusive ของทางโรงแรมที่ได้รับการแนะนำ เป็นแพ็กเกจที่ทำให้ผมรู้สึกสะดวกสบายมากๆ เอาแค่ตัวไปก็จัดงานได้จริงๆ สะดวกสบายขนาดที่หลังจากแต่งหน้าลงมาก็เจอพระท่านรออยู่แล้ว ทั้งของถวาย และการนิมนต์พระ ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้หมด รอแค่ให้บ่าวสาวพร้อมก็สามารถเริ่มพิธีได้เลย คุณแม่บอกว่าโรงแรมเตรียมความพร้อมไว้ได้ดีมากๆ จากวันนั้นจนถึงวันนี้เรายังรู้สึกประทับใจจนคุณแม่ของเจ้าสาวอยากให้ลูกอีกคนไปจัดที่โรงแรมอีกครั้งด้วยครับ

ห้องจัดงาน Private ถูกใจไม่ต้องกลัวงานชน

นอกจากเรื่องของความสวยงามแล้ว พวกเราเน้นในเรื่องของความไพรเวทกับห้องที่ให้ความรู้สึกว่าโล่งโปร่งไม่อึดอัด งานของเราจัดเป็นงานเช้าฉลองเที่ยง ผมมองว่าผังการเดินทางของแขกควรต้องมีการเคลื่อนที่สะดวก ไม่งง ดังนั้นเมื่อพิจารณาแล้วพวกเราเลือกจัดพิธีหมั้นขึ้นที่ห้อง Topaz ที่อยู่ชั้น 2 และจัดงานเลี้ยงฉลองในห้องชั้น 4 Diamond Ballroom ที่ไม่ได้ไกลจากกันนักและพื้นที่มีความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องกลัวงานอื่นมาชน

ที่เลือกห้อง Topaz ในการจัดพิธีหมั้นเพราะผมรู้สึกว่าพื้นที่ของห้องมีความเป็นสัดส่วน เพดานดูโปร่ง และมีพื้นที่หน้าห้องสำหรับการใช้งาน เช่น แห่ขันหมาก หรือจัดโต๊ะสำหรับให้แขกนั่งพักรับประทานขนม ชา กาแฟ ได้ ที่ชอบที่สุดก็คือเป็นห้องที่มีความเป็นส่วนตัว เดินทางไม่ยาก

ส่วนห้อง Diamond Ballroom ก็เช่นกัน ผมชอบที่มีความเป็นไพรเวทเหมือนเหมาชั้น ตัวห้องมีความโปร่ง เพดานสูง และมีจอ LED ที่กว้าง คิดว่าตอนใช้งานภาพออกมาน่าจะดูอลังการ ทั้งสองห้องตอบโจทย์มากๆ กับความต้องการของพวกเราครับ

ดีไซน์จากทีมตกแต่งมืออาชีพ ความชอบแตกต่างที่ลงตัวได้

เรื่องของการตกแต่ง ตอนแรกเราลังเลในเรื่องของการเลือกสีมาก เพราะเจ้าบ่าวอยากได้เป็นเอิร์ธโทน แต่ใจของเจ้าสาวถือคติ ‘จะถูกจะแพง แดงไว้ก่อน’ ทีม Fordeara จึงเข้ามาแนะนำว่าดีไซน์แบบไหน หรือโทนสีแบบใดถ่ายรูปออกมาสวย การเลือกขนาดของ Backdrop ก็เช่นกัน เราอยากให้ภาพถ่ายออกมาดูเต็มๆ อลังการ เขาเลยแนะนำให้ทำสูงสัก 3.6 เมตร พูดคุยหลายอย่างเลยครับจนได้ข้อสรุปที่ลงตัว โดยรวมแล้วพวกเราชอบที่ทางร้านคอยดูแลและติดตามงานอย่างใกล้ชิดมากครับ

ส่วนการออกแบบเรื่องต่างๆ ภายในงาน เราใช้วิธีลองดู Ref.จากหลายๆ งานแต่ง เช่น กิจกรรมต่างๆ ที่แขกจะได้ร่วมสนุก หาไปหามาก็นึกได้ว่าในงานของเพื่อนมีเกมโทรหาแขกเพื่อแจกของรางวัล เรารู้สึกว่าดูสนุกดี เลยได้จบที่เกมโทรหาแขกนี่แหละครับ บ่าวสาวได้ทำกิจกรรม แขกได้ร่วมสนุก รู้สึกว่าเป็นกิจกรรมที่ดีเลยครับ 

ใช้จอ LED ครีเอทบรรยากาศภายในงาน

การเลือกภาพขึ้นจอเราให้เราดูว่าอยากได้บรรยากาศแบบไหน โมชั่นแบบใดที่สร้างบรรยากาศได้ดี ยิ่งฉากตัดเค้กเราอยากให้ดูอลังการก็เลยเลือกพวกพลุเป็นฉากหลัง ส่วนนี้ก็ได้รับคำแนะนำจากทีม Hom-Whan Wedding เป็นอีกหนึ่งทีมให้คอยให้คำแนะนำพวกเราครับ

เมนูโต๊ะจีนอร่อยบอกต่อ

งานของเรามีแขกผู้ใหญ่เยอะ เลยอยากได้โต๊ะนั่ง จึงเลือกเป็นโต๊ะจีน ตอนจบงานได้รับคำชมมาเยอะมากว่ากระเพาะปลาอร่อยมาก อร่อยจนเพื่อนบอกว่าไปเอาของโต๊ะข้างๆ ที่ไม่มีคนนั่งมาด้วย (หัวเราะ) ซึ่งนอกจากโต๊ะจีนแล้วเราพึ่งมารู้ทีหลังว่าอาหารแบบ Buffet ของที่นี่ก็จัดแบบมีโต๊ะนั่งให้แขกเช่นกัน แอบเสียดายนิดหน่อยเพราะชอบรูปแบบอาหารแบบบุฟเฟ่ต์มากกว่า แต่เมนูโต๊ะจีนก็รู้สึกประทับใจเหมือนกันครับ

ของชำร่วยเก๋ๆ ใช้ได้ในชีวิตประจำวันจากความใส่ใจที่อบอุ่น

ถ้าจะมีเรื่องอะไรที่ติดปัญหาก็คงจะเป็นเรื่องของชำร่วยที่เลือกเป็นแก้วพลาสติกนี่แหละครับ เราได้ไอเดียนี้มาจากงานแต่งของเพื่อนที่ใช้ของชำร่วยเป็นแก้วแบบมีฝามีหลอด รู้สึกว่าใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เวลาเราไปงานแต่งมักรู้สึกว่าของที่แจกบางครั้งเราไม่ได้ใช้ก็เลยมองข้ามไม่หยิบ ไม่สนใจ เลยคิดว่าตอนงานเราเลือกของที่ใช้ได้จริงดีกว่าไหม บางคนอาจจะคิดอีกแบบว่าของชำร่วยเป็นของที่ทำมาเพื่อให้เก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่พวกเราคิดว่าไหนๆ จะทำแล้วก็อยากให้แขกได้ใช้มากกว่า

ติดแค่ว่าลืมคิดตอนต้องนำไปโรงแรม เพราะขนาดมันใหญ่ จำนวนก็เยอะ ตอนนั้นเตรียมไป 300 ชิ้นได้ แบกกันไปทีจึงหนักมาก ทำให้เริ่มคิดได้ว่าทำไมคนอื่นเขาเอาของเล็กๆ กัน มิน่าบางคนเอาสมุดโน้ตเล็กๆ ลังเดียวจบ ของเราเหมือนขนกระสอบ 4-5 รอบ (หัวเราะ) แต่ก็เป็นความตั้งใจเล็กๆ ที่เราอยากให้แขกได้ของที่ใช้ได้จริงครับ

เลือกจากที่ใช่ วางแผนงานจากคำแนะนำ

โดยพื้นฐานแล้วการเลือกสิ่งจำเป็นต่างๆ ในงานแต่งก็อิงมาจากความชอบของพวกเรา เราไม่ได้จ้างแพลนเนอร์ มีแค่ออแกไนซ์ แล้วก็เตรียมกันเอง ซึ่งที่เรารู้สึกว่าไม่ได้ยากนักอาจเพราะได้ทางโรงแรมคอยแนะนำดูแล เรารู้สึกว่าแพทเทิร์นที่โรงแรมถามว่ายังขาดอะไรบ้าง ต้องเตรียมอะไรบ้างก็คือรูปแบบการเตรียมงานของแพลนเนอร์ท่านหนึ่ง และเราก็ได้รับการดูแลจากหลายฝ่ายโดยร้านพาร์ทเนอร์ของทางโรงแรมที่เราไปใช้บริการ ทำให้รู้สึกเหมือนมีที่ปรึกษาหลายคนครับ

ตรวจสอบจำนวนแขกเพื่อคำนวณงบ : เพื่อหาห้องที่สามารถรองรับแขกได้ เราต้องประมาณแขกไว้ก่อนว่าเพื่อนของเรามีเท่าไหร่ เพราะขนาดของห้องที่เลือกจัดงานควรจะพอดีกับจำนวนแขก ไม่แน่นหรือใหญ่เกินไป

การ์ดเชิญออนไลน์ช่วยเซฟงบได้ : สมัยนี้การส่งการ์ดทางออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะค่อนข้างสะดวก  การ์ดปริ้นเราก็สั่งทำแค่เท่าที่จำเป็นสำหรับแขกที่ไม่สะดวกรับทางออนไลน์ แบบนี้เราก็จะประหยัดงบได้มากขึ้น

เตรียมงานเร็วก็ยิ่งมีเวลาจัดสรรงบ : เราอยากทุ่มเต็มที่กับงานแต่ง จึงเลือกการจัดสรรงบโดยการเตรียมงานแต่เนิ่นๆ โดยเริ่มจากการหาฤกษ์ก่อน เพื่อให้บางร้านที่เราไปจองสามารถตรวจสอบคิวงานได้ จากนั้นก็คำนวณช่วงเวลาที่จะได้สิ่งที่จองไว้ ค่อยๆ เรียงลำดับว่าแต่ละร้านต้องใช้งบเท่าไหร่ และต้องใช้เวลาแค่ไหน เพราะเราเริ่มเตรียมงานเร็ว จึงมีเวลาบริการงบประมาณมากตามไปด้วย

งานแต่งแบบ No planner ฉบับบ่าวสาวดีเทลเป๊ะ พร้อมทริคเตรียมงานที่ต้องรู้! @ Grand Richmond Hotel

โปรปังที่สุดแห่งปี มีครบ จบที่เรา 21 - 22 มิถุนายน 2025 

ลงทะเบียนเลย >> https://bit.ly/3F4Hi85

WeddingWonders : The Secret Deal สิทธิพิเศษกว่า 30 แบรนด์ดัง 

พบกันที่ Diamond Ballroom ชั้น 4

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

MRT : สถานี บางกระสอ

Vanus Couture - วนัช กูตูร์

ศรีภัทร ขันหมาก

Sabai-สไบ #ชุดไทยเพื่อนเจ้าสาว ชุดไทยเพื่อนเจ้าบ่าว

วาดรูปแค่นี้ทำไมนานจัง

WeddingWonders : The Secret Deal สิทธิพิเศษกว่า 30 แบรนด์ดัง 21 - 22 มิถุนายน 2025

สถานที่ต้องสวยไว้ก่อน อย่างอื่นเดี๋ยวตามมา

ในการเตรียมงานแต่งอย่างแรกที่เรามองหาเลยก็คือสถานที่ดีๆ ค่ะ ด้วยความที่เราชอบถ่ายรูป เลยอยากให้ภาพออกมาดูดี เลยจะซีเรียสมากกับการหาสถานที่สวยๆ ใกล้บ้าน เราหาดูในเน็ตไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้มาเจอกับโรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ค่ะ พอติดต่อเข้าไปดูสถานที่จริงก็ได้เจอกับเซลล์คุณนิวที่พาชมโรงแรม เห็นโรงแรมแล้วสวยถูกใจมาก ชอบที่เพดานสูง เรื่องการเดินทางก็สะดวกด้วย จึงตัดสินใจเลือกเป็นที่นี่ค่ะ จากนั้นเราถึงค่อยดูร้านต่างๆ ตามค่ะ 

Topaz ห้องสวย เข้าออกง่าย มีความเป็นส่วนตัว

เราเลือกห้อง Topaz เป็นห้องงานหมั้นค่ะ โชคดีที่เราไปเจอวันจัดงานพอดี ทำให้เห็นแปลนที่วางในงานแล้วเห็นภาพงานแต่งที่เราจะจัดค่ะ เรื่องการเข้าออก เรารู้สึกว่าแขกสามารถหาทางมาได้ง่าย ขึ้นบันไดเลื่อนหรือเดินเข้าประตูที่จอดรถ 2A มาก็เจอเลย มาจากลิฟต์ที่จอดรถสะดวก เข้าได้หลายทางแต่ยังมีความเป็นส่วนตัว เพราะบริเวณนั้นมีห้องจัดงานเดียว และเราชอบการตกแต่งด้านในอย่างไฟกลมบนเพดาน หรือโทนสีห้องมาก ดูสวย แต่ที่ชอบมากที่สุดคือพื้นที่ด้านนอกที่กว้างขวาง สามารถจัดเป็นสัดเป็นส่วนได้ดีค่ะ

Richmond Ballroom 2-3 ห้องสวยมีจอ LED จบ ไม่ต้องแต่งเพิ่ม

งานเย็นเราเลือกห้อง Richmond Ballroom 2-3 เพราะชอบที่ความสูงของเพดานและไฟเพดานที่เป็นจุดเด่นของห้องค่ะ คือรู้สึกว่ามันเล่นอะไรได้เยอะ สามารถปรับสีไฟได้ทุกเฉดสีเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้ และนอกจากนั้นก็ชอบที่มีจอ LED ขนาดใหญ่ค่ะ คือถ้าเทียบกับที่อื่นที่ต้องไปติดต่อขอติดตั้งจอเพิ่ม ต้องไปดีลกับออแกไนซ์ด้านนอกให้วุ่นวาย เลือกที่นี่ จ่ายครั้งเดียวจบง่ายดีค่ะ ส่วนเรื่องตกแต่งด้วยห้องที่สวยอยู่แล้วเลยไม่ต้องแต่งเพิ่มเติมอะไรเยอะ ซึ่งทั้งหมดนี้คือไปดูแค่ครั้งเดียวแล้วถูกใจก็เซ็นสัญญาเลยค่ะ (หัวเราะ) 

เซอร์ไพรซ์พิเศษจากเจ้าบ่าวให้เจ้าสาว

ช่วงงานเลี้ยง นอกจากกิจกรรมปกติในงานแต่ง เราได้จัดให้มีเล่นเกมตอบคำถามและโชว์เต้นของเจ้าบ่าวค่ะ แต่ที่พิเศษอีกอย่างคือเซอร์ไพรส์จากเจ้าบ่าวที่แอบไปเตี๊ยมกับเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ด้วยความที่เจ้าบ่าวเป็นคนที่ค่อนข้างขี้อาย แล้วก็ไม่ถนัดการร้องเพลงภาษาอังกฤษ พอเขาเปิดเพลงมาตัวเราเลยตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะยอมทำให้ 

นึกย้อนไปกี่ครั้งก็อดยิ้มไม่ได้ คือรู้สึกประทับใจมากจริงๆ ตอนนั้นจริงๆ มีแอบระแคะระคายบ้างค่ะว่าเจ้าบ่าวเขากำลังแอบเตรียมอะไรอยู่ ซักไปซักมาเขาถึงยอมบอกว่ากำลังซ้อมเพลงที่จะแสดงอยู่ ไม่คิดว่าจะโดนหลอกซ้อนหลอก ปากบอกเพลงหนึ่ง วันจริงมีร้องเพิ่มอีกเพลงเฉย(หัวเราะ) 

ความประทับใจที่ทำให้ยิ้ม

งานนี้เราประทับใจหลายอย่างเลย แต่ถ้าเรื่องที่นึกแล้วยิ้มเลยก็คือเรื่องของเจ้าบ่าวที่ทำเซอร์ไพรส์เราค่ะ เขาทำในสิ่งที่ไม่ถนัดและไม่ใช่นิสัยของเขาเพื่อเรา เป็นอะไรที่ประทับใจสุดๆ ค่ะ 

แล้วเราชอบบรรยากาศในงานมาก เพราะตอนที่เทสไฟ เทสจอ เรายังมองไม่เห็นภาพว่าจะออกมาเป็นยังไง แต่พอถึงวันงานแล้วทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดไว้คือโล่งใจมากๆ ค่ะ บรรยากาศดี ห้องสวย ตามที่คิดไว้เลย รู้สึกดีมากๆ ค่ะ

นอกจากนี้ก็เรื่องของการบริการและเซลล์ค่ะ อย่างเซลล์คุณนิวเราก็รู้สึกว่าเขาน่ารัก มีหลายอย่างที่ขอให้คุณนิวช่วย คุณนิวก็ช่วยด้วยความเต็มใจ ของหายก็ช่วยเกณฑ์คนไปหา คอยให้คำปรึกษาตลอด ตัวจอยเองขอเข้าไปเทสไฟหลายรอบมากเพราะรู้ว่าแสงจริงกับแสงภาพที่ถ่ายออกมามันจะไม่เหมือนกัน ซึ่งคุณนิวเขาไม่เคยบ่นไม่เคยว่าเลย พนักงานทุกคนก็คือน่ารักมาก รู้สึกประทับใจกับเซอร์วิสของโรงแรมมากจริงๆ ค่ะ

ไม้มงคล ของชำร่วยเสริมโชคลาภ

สำหรับของชำร่วยเราเลือกเป็นต้นอ่อนไม้มงคลต้นเล็กๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะมีความหมายที่ดีแล้ว ที่บ้านเราก็ทำธุรกิจปลูกต้นไม้ เลยอยากให้มันลิงค์กัน ปรากฎว่าแขกชอบมาก รู้สึกคิดถูก บางคนก็เอาไปหลายต้นเลยค่ะ (หัวเราะ)