
งานแต่งสุดคอนทราสต์ Earth Tone x Colorful ความสวยที่ลงตัว @ Grand Richmond Hotel
รีวิวงานแต่งงาน
Wedding Date
Aug 17,2025
(Updated
Aug 18,2025)
|

วางแผนงานแต่งเองเกือบปี แต่สบายใจ ไม่กังวล
นัทกับตั้ม(เจ้าบ่าว) ใช้เวลาเตรียมงานแต่งเกือบปีเลยค่ะ เพราะมีญาติผู้ใหญ่และผู้สูงอายุค่อนข้างเยอะ เลยตั้งใจว่าอยากให้ทุกพิธีจบภายในวันเดียว จะได้เหนื่อยทีเดียวจบ โดยเราเริ่มจากหาสถานที่และทีมตกแต่ง (Decoration) ก่อน เพราะมองว่านี่เป็นองค์ประกอบสำคัญของงานค่ะ
ระหว่างหาข้อมูลก็มีคนแนะนำว่า โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ (Grand Richmond Hotel) สวยนะ เราเลยลองเข้ามาดู ตอนแรกเห็นภายนอกก็รู้สึกเฉยๆ แต่พอเข้ามาด้านในแล้วถึงกับอุทานว่า “โอ้ สวยเลย” การตกแต่งภายในดูดีมาก สะอาดและหรูหรา ชอบมากเลยค่ะ









อีกอย่างที่ประทับใจมากคือ เซลล์ของโรงแรม ค่ะ คู่ของเราดูแลโดยคุณนิว ตั้งแต่วันแรกที่เจอก็รู้สึกว่าเขาดูแลดีมาก คอยอธิบายทุกอย่างที่เราไม่เข้าใจ ถามอะไรก็ตอบเร็ว รู้สึกว่าเขาใส่ใจจริงๆ
เมื่อเราลองพิจารณาแพ็กเกจ ภาพรวมหลายๆ อย่างแล้วรู้สึกว่าสิ่งที่ได้กับราคามันสมเหตุสมผล จึงตัดสินใจจองที่นี่ ซึ่งหลังจากจองแล้ว คุณนิวก็ยังคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เราไม่ได้จ้างแพลนเนอร์ ต้องทำเองทุกอย่าง คุณนิวก็ช่วยเตือนและดูแลว่ามีอะไรที่ขาดเหลือ ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ




Earth Tone x Colorful ความลงตัวที่แขกทั้งงานยังชม
ทีมตกแต่งเราเลือก Fordeara Wedding ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของโรงแรมค่ะ เราชอบที่ทีมงานดูแลดี และคอยให้คำปรึกษาตลอด ซึ่งสไตล์ที่นัทชอบจะเป็นแนวเอิร์ธโทน อบอุ่นๆ ไม่อยากให้สีจัดจ้านเกินไป ส่วนตั้มชอบแนวคัลเลอร์ฟูล เป็นรสนิยมที่ contrast กันสุดๆ ก็แอบลำบากใจนิดนึงว่าจะผสมออกมายังไงดี เราเลยขอว่าอยากให้แดงน้อยๆ เน้นสีน้ำตาล เหลือง เขียว จะได้ดูนุ่มๆ ไม่จัดหรือนู้ดเกินไป
ทาง Fordeara ก็ไปออกแบบและส่งดราฟต์มาให้เราดูประมาณ 2 เดือนก่อนวันงาน เราเห็นแล้วก็โอเคเลย สวย และพอถึงวันงาน ได้เห็นดอกไม้จริงที่ใช้ คือเขาใช้ดอกไม้สีสดนะคะเป็นโทนสดใสแต่ไม่แสบตา รู้สึกว่าทางร้านสามารถผสมความชอบของเราทั้งคู่ได้ลงตัวมาก ถ่ายรูปกับแบ็กดรอปออกมาก็ดูดี แขกชมกันเยอะมากค่ะ



ห้องสวยโทนละมุนกับแพ็กเกจที่แค่แต่งตัวมาก็ปัง
เราจัดพิธีหมั้นที่ห้อง Peridot เพราะชอบบรรยากาศห้องที่ดูสว่าง ไฟเพดานสวย เหมาะกับการถ่ายรูปช่วงเช้า ประกอบกับแพ็กเกจพิธีหมั้นของโรงแรมที่เราเลือกก็ค่อนข้างครบครัน มีทั้งเซ็ตขันหมาก ชุดตักบาตร นายพิธี และแบ็กดรอป เราเลยขอให้จัดดอกไม้ที่ขันหมากและฉากเป็นธีมสีขาวเพื่อให้ภาพรวมของงานดูละมุนและสว่างสดใส ซึ่งพอถึงวันจริงทุกอย่างก็ออกมาสวยมาก แล้วเพราะแพ็กเกจครอบคลุมดี เราแทบไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติมเลย แค่แต่งตัวให้พร้อม แล้วถือซองไปก็จบ สบายสุดๆ ค่ะ




จอ LED แทนฉากหลัง เปลี่ยนภาพจำงานแต่ง
ห้องจัดเลี้ยงเราใช้ห้อง Diamond Ballroom ค่ะ ซึ่งคุณนิวเป็นคนแนะนำ ห้องนี้กว้างมาก รองรับแขก 400 คนได้สบายๆ เราชอบที่มี จอ LED ขนาดใหญ่ ตรงเวที เพราะส่วนตัวเราไม่อยากใช้แบ็กดรอปแบบมีโครงเยอะๆ อยากให้เวทีดูมินิมอล พอได้จอ LED ก็ตอบโจทย์เลย คนที่บ้านตอนแรกมองไม่เห็นภาพ เพราะชินกับงานแต่งที่ต้องมีฉากหลัง แต่พอถึงวันจริง ทุกคนชมว่า “ไม่คิดว่าใช้จอแล้วจะสวยขนาดนี้” แขกก็ชมว่าจัดงานได้ดีมาก เราเองก็พลอยดีใจไปด้วยค่ะ




จัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน ถ่ายรูปออกมาสวย แขกไม่ต้องเดินให้เหนื่อย
เรื่องอาหารเราคำนึงถึงแขกก่อนค่ะ เพราะมีผู้ใหญ่เยอะ จึงเลือกเป็นโต๊ะจีน ซึ่งสะดวกตรงที่ไม่ต้องเดินไปตักเอง แขกนั่งรออาหารเสิร์ฟได้เลย ภาพรวมของงานก็ดูเรียบร้อย แอบเสียดายนิดนึงเรื่องลำดับอาหารที่ไม่ได้ให้เปลี่ยนเมนูข้าวมาเสิร์ฟก่อน ถ้าอาหารประเภทข้าวมาเร็วจะได้กินกับอย่างอื่นได้ด้วย แต่เรื่องรสชาติแขกชมกันเยอะเลยค่ะว่าอร่อย ถือว่าโอเคมากค่ะ




โมเม้นท์ชวนอมยิ้ม กีตาร์ที่ดูไม่มีอะไร กลายเป็นตัวหลอกที่อบอุ่นที่สุดในงาน
สิ่งที่ทำให้เราประทับใจในงานที่สุดคือ เจ้าบ่าวเซอร์ไพรส์ร้องเพลงให้ค่ะ ปกติเขาเป็นคนชอบร้องเพลงอยู่แล้ว ถึงขนาดมีกีตาร์ส่วนตัว เราคิดว่าถ้าเขาวางแพลนร้องเพลงในงานก็น่าจะเอากีตาร์ไป แต่มันไม่ได้อยู่ในซีเคว้นที่คุยกันเลย แล้วก็ไม่มีฮืมฮัมหรือหลุดร้องเพลงเลยด้วย เราเห็นกีตาร์ยังวางอยู่ที่เดิมเลยคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรนอกจากซีเคว้นปกติแล้วล่ะ
ทว่าพอถึงเวลาจริงที่พิธีกรประกาศคิวขึ้นมา ความรู้สึกเราตอนนั้นคือบอกไม่ถูก งงๆ นิดนึง แต่ก็ปลื้มๆ ปริ่มๆ ส่วนเจ้าบ่าวเองน่าจะประหม่าตื่นเต้นพอดู เพราะเขาถามขึ้นมาว่า “ท่อนแรกคืออะไรนะ” ตอนที่ทำนองขึ้นเราจึงพอรู้แล้วว่าจะร้องเพลงอะไรเลยช่วยขึ้นเนื้อให้(หัวเราะ) แขกในงานก็มีการเปิดแฟรชโทรศัพท์โบกคลอไปกับเพลงเหมือนคอนเสิร์ต เป็นภาพที่ทำให้รู้สึกประทับใจมากเลยค่ะ
หลังจบงานคุณนิวแอบมากระซิบเรื่องน่ารักว่าเจ้าบ่าวเผลอเอาไฟล์ที่จะร้องเพลงเซอร์ไพรส์ใส่เข้าไปในกลุ่มที่มีนัทอยู่ด้วย โชคดีที่รอบนั้นนัทไม่ได้เปิดดูเลยรอดไป พอมานึกย้อนแล้วรู้สึกเหมือนโดนใช้กีตาร์เป็นตัวหลอกเลยค่ะ(หัวเราะ) ยังไงก็ตาม เรารู้สึกว่าคุณนิวคอยดูแลพวกเราดีมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณคุณนิวมากๆ เลย



เทคนิคการเลือก Costume สำหรับเจ้าสาวจากประสบการณ์จริง
ในการเลือกชุด เราจะเลือกจากความชอบและความมั่นใจก็จริง แต่ก็ยังมีจุดที่ต่างกันนิดๆ หน่อยๆ สำหรับพิธีหมั้นและฉลองค่ะ พิธีหมั้นเราไม่ได้เลือกชุดไทยเพราะไม่ใช่สไตล์เท่าไหร่ เลยเลือกชุดที่มีลูกไม้สวยๆ ดูมินิมอล นั่งแล้วไม่ปลิ้น เป็นช่วงพิธีที่ต้องเลือกชุดนั่งแล้วสวยที่สุดค่ะ ซึ่งร้านก็ช่วยแนะนำดูแลให้ ส่วนพิธีฉลอง ก่อนไปที่ร้านเราดูแบบไว้ล่วงหน้าแล้วค่อยไปลองจริง แต่ก็ยังได้ลองเกือบสิบชุดอยู่ดีกว่าจะได้แบบที่ชอบและมั่นใจจริงๆ ซึ่งตอนที่ลองเราก็ต้องฟังคอมเม้นท์ของเซลล์และทางเจ้าบ่าวที่ช่วยดูให้ประกอบการตัดสินใจไปด้วยค่ะ
สำหรับเจ้าสาวที่เลือกใส่ชุดกระโปรงพองๆ อันนี้เล่าไว้เป็นเคสนะคะ บังเอิญว่าวันนั้นสุ่มที่นัทใส่มันเคลื่อนบนเวทีนิดหน่อย ตอนแรกนึกว่าสุ่มหลุดเลยกระซิบกับ MC ขอลงไปจัดการหลังเวที ใช้เวลาสักพักเหมือนกัน ดีที่ห้อง Diamond Ballroom มีห้อง VIP ใกล้เวทีทำให้ไม่เสียเวลาในการแก้ไขชุดมากและมีความเป็นส่วนตัว โดยระหว่างที่นัทไปแต่งตัว พิธีกรกับเจ้าบ่าวก็พูดคุยกันไป ทำให้งานยังไหลราบรื่นไม่มีปัญหาค่ะ อันนี้เป็นการร่วมมือกันแก้ไขสถานการณ์ของทีมงานหน้างานที่ดีมากๆ เลยค่ะ



ส่วนรองเท้า สำหรับช่วงพิธีเช้านัทแนะนำให้เลือกรองเท้าสวยๆ ที่เข้ากับชุดได้ตามใจเลยค่ะ เพราะเดินน้อย อยู่แล้ว อย่างนัทเองก็เลือกใช้รองเท้าของ Ceremony.shoes นัทชอบที่เขาเป็นร้องเท้าตัดใหม่และดีไซน์สวยโดดเด่นค่ะ แต่ช่วงงานเลี้ยงจะแนะนำเป็นรองเท้าส้นตึกที่ใส่สบายๆ นะคะ เพราะต้องยืนเยอะ ขนาดนัทใส่รองเท้าที่คิดว่าสบายแล้วนะแต่ก็ยังปวดเลยค่ะ (หัวเราะ)




ไอเดียของชำร่วยที่ดูหลากหลายไม่จำเจ
สำหรับของชำร่วย ปกติไปงานแต่งแล้วจะได้พวกเทียนหอม ตะเกียบ ไปหลายๆ ที่ ได้มาเยอะ รู้สึกมันคล้ายๆ กันไปหมด เราเลยเลือกเป็นการ์ดโฮลเดอร์ (Card Holder) เพราะเป็นของที่ได้ใช้จริง โดยจะทำหลายๆ สีให้แขกได้เลือกกันได้ด้วย จะได้ดูไม่ซ้ำค่ะ



เก็บโมเมนต์แบบมุม Candid ให้ฟีลภาพถ่ายที่เป็นตัวเรา
เราเลือกช่างภาพจากสไตล์ที่ชอบ โดยดูจากโทนภาพ, mood, และงบ สุดท้ายจบที่ Nas Images เพราะเขาถ่ายแนว Candid ดี โทนออกธรรมชาติ มีความเข้มหน่อย วันจริงเขาช่วยบิวต์อารมณ์ได้ดีมาก เวลาคนเราตั้งใจถ่ายรูปภาพที่ได้มักจะมีความเกร็งอยู่ข้างใน แต่เขาช่วยให้เราผ่อนคลาย ทำให้ได้ภาพเผลอๆ ที่เป็นธรรมชาติ มาย้อนดูรูปก็ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งจัดงานผ่านไปจริงๆ ค่ะ





คำแนะนำจากบ่าวสาว
ขยันหาข้อมูลและรับฟังกันให้เยอะ :
ถ้าไม่มีแพลนเนอร์ เราต้องขยันหาข้อมูล เพราะเราต้องคำนวณหลายๆ อย่างด้วยตนเอง ถ้าเป็นเรื่อง Personal ก็ตัดสินใจกันได้เลย เช่น ชุด การ์ด ฯลฯ แต่ถ้ามีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างลำดับพิธีการต่างๆ ต้องดูว่าทำอะไรได้บ้าง รับฟังความเห็นกันและค่อยๆ ปรับค่ะ
อย่าลืมตรวจเช็คความเรียบร้อยของงาน :
หลังจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จ อย่าลืมตรวจเช็คอีกครั้งว่ายังขาดเหลืออะไรไหม เพื่อให้ในวันงานเราไม่กังวลค่ะ เพราะหน้างานเราจะไม่ค่อยมีเวลาดูด้วยตัวเองแน่นอนค่ะ
ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดในช่วง 2 อาทิตย์ก่อนงานแต่ง :
เรื่องผิวพรรณเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเจ้าสาว ถ้าเกิดมีแผลหรืออะไรขึ้นมาเราต้องรีบติดต่อช่างแต่งหน้าให้เร็วที่สุดเพื่อที่เขาจะได้เตรียมตัวถูกว่าต้องปรับแต่งวิธีแต่งหน้าเราแบบไหน ถ้าเราไม่แน่ใจว่าควรดูแลผิวเรายังไงลองถามช่างดูได้ค่ะ
ห้ามใช้ยาแต้มสิว :
อันนี้เป็นความรู้จากช่างแต่งหน้า ถ้าเป็นสิวห้ามใช้ยาแต้ม เพราะจะทำให้หน้าแห้งค่ะ แนะนำให้ใช้แผ่นดูดสิวแทน หากหน้าแห้งเวลาที่แต่งหน้าออกมาจะเป็นขุยๆ แล้วแต่งออกมาได้ไม่ดีค่ะ

WEDDINGPACKAGE
Are you interested? Please book a package.
We're happy to help!

WEDDINGPACKAGE
Are you interested? Please book a package. We're happy to help!
Related Stories

